การนวดหัวใจ ผายปอดอย่างถูกวิธี ช่วยลดการสูญเสียที่คุณก็ทำได้
อุบัติภัยที่พบได้บ่อยมากที่สุดในช่วงหน้าฝน คงจะหนีไม่พ้น ถูกไฟช็อตไฟดูดจากกระแสไฟฟ้ารั่วลงน้ำที่ท่วมขัง หรือไฟช็อตจากการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าขณะตัวเปียกหรือยืนอยู่ในที่มีน้ำขัง เนื่องจากน้ำเป็นตัวสื่อนำไฟฟ้าได้อย่างดี ทำให้พบเจอผู้ประสบเหตุดังกล่าวจำนวนมาก ไม่แพ้กรณีอุบัตเหตุคนจมน้ำ แต่ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดที่เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เราอาจช่วยลดการสูญเสียได้หากให้การช่วยเหลือได้ทันและอย่างถูกวิธี เราจึงนำวิธีการช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการจมน้ำ ถูกไฟดูดไฟช็อต สำลักควันไฟไหม้ หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่หมดสติ ลมหายใจอ่อน หัวใจหยุดเต้นกระทันหัน ฯลฯ ด้วยการผายปอดและการนวดกระตุ้นหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประสบเหตุมีโอกาสรอดชีวิตและลดความเสี่ยงต่อความพิการ วิธีการผายปอดด้วยการให้ลมทางปาก ให้ผู้บาดเจ็บนอนราบในพื้นที่เรียบ จัดท่าที่เหมาะสมเพื่อเปิดทางให้อากาศเข้าสู่ปอด ผู้ปฐมพยาบาลควรอยู่บริเวณศีรษะของผู้บาดเจ็บด้านซ้ายหรือขวามือก็ได้ ใช้มือดึงคางผู้บาดเจ็บมาด้านหน้า และใช้มืออีกข้างดันหน้าผากไปด้านหลัง เพื่อไม่ให้ลิ้นอุดกั้นทางเดินหายใจ และระวังไม่ให้นิ้วมือที่ดึงคางกดลึกลงเนื้อใต้คาง เพราะจะไปอุดกั้นทางเดินหายใจ (*กรณีเด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็ก ไม่ควรแหงนคางและคอมากเกินไป เพราะอาจทำให้หลอดลมแฟบ และอุดกั้นทางเดินหายใจ*) สอดนิ้วหัวแม่มือเข้าในปากและอ้าปากของผู้บาดเจ็บ เพื่อล้วงและนำสิ่งของในปากที่อาจไปขวางทางเดินหายใจออกให้หมด เช่น เศษอาหาร ฟันปลอม เป็นต้น ผู้ปฐมพยาบาลอ้าปากตนเองและสูดหายใจเข้าปอดให้เต็มที่ ใช้มือข้างหนึ่งบีบจมูกผู้บาดเจ็บให้แน่นสนิท และใช้มืออีกข้างดึงคางผู้ป่วยมาข้างหน้า ประกบปิดปากผู้บาดเจ็บพร้อมเป่าลมเข้าไป ทำเป็นจังหวะ 12-15 ครั้ง / นาที ขณะที่เป่าปาก ใช้สายตาเหลือบมองการเคลื่อนไหวของหน้าอกผู้บาดเจ็บ หากหน้าอกไม่มีการขยับขึ้น-ลง อาจเนื่องมาจากท่านอน หรือมีสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ ให้ลองสังเกตและหาสาเหตุเพิ่มเติม กรณีที่อ้าปากผู้บาดเจ็บไม่ได้ ให้เป่าลมเข้าทางจมูกแทน…