วิถีแม่บ้านยุคใหม่ ขจัดคราบร่องยาแนวด้วยของที่มีในบ้าน

เคยไหมคะ ปัญหากวนใจที่ชวนหงุดหงิด หลังจากทำความสะอาดบ้านเท่าไร เหนื่อยจนแทบหมดแรง แต่ร่องพื้นก็ยังคราคร่ำไปด้วยคราบสกปรก โดยเฉพาะในร่องยาแนว ไม่ว่าจะคราบเหลือง หรือ คราบดำ ๆ ที่ขัดยังไง ก็ยังคงหลงเหลือซากทิ้งไว้ ให้รกตารกใจ พูดแล้วก็ช้ำใช่ไหมละคะ วันนี้เรามีวิธีทำความสะอาดร่องยาแนว แบบฉบับแม่บ้านมือโปร อุปกรณ์ก็หาได้ง่ายมีแทบกันทุกบ้านอยู่แล้ว หรือใครไม่มีจริง ๆ  ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปเลยค่ะ จะมีวิธีไหนและทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 

1. น้ำส้มสายชู 

ถ้าใครทำงานบ้านประจำ หรือเป็นพ่อบ้านแม่บ้านแบบฟูลไทม์ ย่อมคุ้นเคยกับน้ำส้มสายชูกันดีอยู่แล้ว เพราะประโยชน์ของน้ำส้มสายชูสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายเลยทีเดียว แต่เรื่องใช้ทำความสะอาด ต้องยกให้น้ำส้มสายชูเป็นไอเทมดีเด่น จนแทบจะลืมวัตถุประสงค์หลักจริง ๆ ว่าเขาผลิตออกมาเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงในส่วนครัว หากบ้านไหนมีปัญหาขจัดคราบดำฝังลึก ให้ลองใช้แปรงสีฟัน หรือแปรงขนาดเล็ก ๆ ที่มีขนแข็ง ๆ ชุบน้ำส้มสายชูให้ชุ่ม แล้วนำไปขัดบริเวณที่มีคราบดำในรอบแรกก่อน แล้วค่อยทำความสะอาดปกติ และล้างออกด้วยน้ำเปล่าปิดท้าย  

2. เบกกิ้งโซดา และ น้ำส้มสายชู 

หลังจากใช้น้ำส้มสายชูหยั่งเชิงไปแล้ว แต่คราบยังดื้อด้านไม่ยอมออกไปให้หมด เหลือซากบางส่วนทิ้งไว้เยาะเย้ยเป็นหย่อม ๆ  แม่บ้านมือโปรอย่างเราต้องไม่ยอมแพ้ ต้องตามผู้ช่วยดี ๆ ที่เป็นไอเทมคู่ครัวและเด่นเรื่องใช้ทำความสะอาดสารพัดจนแทบลืมไปแล้วเหมือนกัน ว่า เบกกิ้งโซดา มีหน้าที่หลักในเรื่องของอาหารอาหารและขนมต่าง ๆ และวิธีทำความสะอาดคราบในร่องยาแนวด้วยเบกกิ้งโซดา โดยการโรยผงเบกกิ้งโซดาโรยตามร่องยาแนว จากนั้นนำน้ำส้มสายชูเติมลงในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นตามลงไป ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที รอให้มันทำปฏิกิริยาจนเกิดฟอง แล้วใช้แปรงสีฟัน หรือแปรงขัดพื้นทั่วไปที่มีขนแข็ง ๆ ขัดให้ทั่วร่องยาแนว 1 รอบ แล้วพรมน้ำเปล่าซ้ำลงไป และใช้แปรงขัดซ้ำอีกรอบ ก่อนล้างออกให้สะอาดตามปกติ 

3. ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ น้ำยาล้างจาน  น้ำส้มสายชู 

หากร่องยาแนวมีคราบดำจนเกินเยียวยา แนะนำให้ลองใช้สูตร ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) 1/4  ถ้วยตวง ผสมกับ เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง และ น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปขัดพื้น โดยเฉพาะตามร่องยาแนว และบริเวณที่มีคราบราดำ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด

4. แอมโมเนีย เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู

สูตรนี้ใช้แอมโมเนีย 1/4 ถ้วยตวง , เบกกิ้งโซดา 1/4 , น้ำส้มสายชู 1/8 ถ้วยตวง และ น้ำอุ่น 3 ถ้วยตวง ผสมลงในขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นลงตามร่องยาแนว แล้วใช้แปรงขัดคราบออก จากนั้นใช้ผ้าเช็ดหรือล้างออกให้สะอาด *แอมโมเนียเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง (วิธีปฐมพยาบาลเมื่อได้รับสารพิษแอมโมเนีย

5. ผงซักฟอก และ เบกกิ้งโซดา 

สูตรนี้ง่ายมาก ๆ และแทบไม่ต้องใช้ส่วนผสมอะไรมากมาย เพียงแค่ใช้ผงซักฟอก หรือ น้ำยาซักผ้าที่มีอยู่แล้วกับเบกกิ้งโซดาเท่านั้น โดยใช้ ผงซักฟอก 3/4 ถ้วยตวง และ เบกกิ้งโซดา 1/4 ถ้วยตวง คนให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อสครับแล้วนำไปป้ายตามร่องยาแนวให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าขัดให้สะอาด ปล่อยทิ้งไว้อีกประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงใช้ผ้าเช็ดหรือล้างออกให้สะอาด

6. ผงฟอกผ้าขาว 

สำหรับบ้านไหนที่มีผงฟอกผ้าขาวอยู่แล้ว แนะนำให้ลองใช้สูตรนี้ ซึ่งผงฟอกผ้าขาวสามารถใช้กับพื้นกระเบื้องแบบธรรมดาไปจนถึงกระเบื้องหินอ่อนได้ โดยใช้ผงฟอกผ้าขาวผสมกับน้ำอุ่นลงในขวดสเปรย์ แล้วนำไปฉีดพ่นลงบนกระเบื้องและร่องยาแนว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนจะใช้แปรงหัวไนลอนขัดคราบออกและปล่อยทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาที จึงล้างออกให้สะอาด

วิธีชะลอการเกิดราดำใหม่

เพื่อป้องกันการเกิดราใหม่ ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน ลงในขวดสเปรย์เก็บไว้ เพื่อไว้ใช้ฉีดพรมลงแนวร่องยาแนวให้ทั่ว โดยคอยฉีดทุก ๆ 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดคราบฝังลึก และชะลอการเกิดราใหม่ในร่องยาแนวไปได้อีกนาน 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ต้องไม่ลืมป้องกันตนเองในขณะที่ทำความสะอาดทุกครั้ง ด้วยการสวมแว่นตา หน้ากาก และ ถุงมือยาง รวมไปถึงการเปิดประตู หน้าต่าง ให้ระบายอากาศอยู่เสมอค่ะ   

Previous Post
Next Post