ไม่กี่วันที่ผ่าน เกิดกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ขึ้นที่เป็นที่ฮือฮามากในสังคมก็คือมีคนเจอไข่มุกเมโลจากการไปทานอาหารที่ร้าน และมาโพสต์ถามว่าคืออะไรก่อนจะตกใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้เจอ ซึ่งก็คือไข่มุกเมโลนั่นเอง เดี๋ยววันนี้เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าไข่มุกเมโลที่ว่าเนี่ยมันคืออะไรกันแน่ รวมไปถึงมูลค่าและการถือกำเนิดของมันกันหน่อยไปพร้อมๆ กัน
ไข่มุกคืออะไร และมีกี่ประเภท?
ไข่มุกคืออัญมณีอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่แตกต่างจากอัญมณีอื่นๆ คือเป็น 1 ในอัญมณีไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิต เนื่องจากการเกิดขึ้นของมันจะเกิดขึ้นจากการสะสมแร่ธาตุต่างๆ ที่หอยมุกกินเข้าๆ เมื่อการสะสมนานๆ เข้าหอยมุกก็จะเกิดการระคายเคือง และจะสร้างสารประเภทแคลเซียมคาร์บอเนตมาหุ้มเพื่อลดการระคายเคือง ซึ่งเจ้าแคลเซียมคาร์บอเนตที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นเป็นลักษณะชั้นๆ และจะเรียกว่า เนเคอร์ (Necre) ที่มีความแวววาว และเมื่อชั้นเนเคอร์ยิ่งหนามากเท่าไหร่ก็จะมีความแวววาวมากเท่านั้น เมื่อชั้นเนเคอร์หนาขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะเห็นเป็นไข่มุกนั่นเอง
โดยไข่มุกจะแบ่งเป็น 3 ประเภท ไข่มุกธรรมชาติ, ไข่มุกเลี้ยง และไข่มุกเทียม
ไข่มุกธรรมชาติ
ไข่มุกธรรมชาติจะเกิดขึ้นยากมากๆ ทำให้มีราคาค่อนข้างแพง และมักจะขายกันในหน่วยกะรัต เช่นเดียวกับเพชร
ไข่มุกเลี้ยง
ไข่มุกเลี้ยงในปัจจุบันมีหลายฟาร์มมาก โดยวิธีการผลิตคือการให้คนในสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหอยมุก อาจจะเป็นมุกเทียมหรือก้อนพลาสติก เป็นการกระตุ้นให้หอยสร้างชั้นเนเคอร์และผลิตไข่มุกโดยเร็วที่สุด
ไข่มุกเทียม
ไข่มุกเทียมส่วนมากมักจะผลิตจากพลาสติกหรือโพลิเมอร์ อาจจะมีการใส่เปลือกหอยเข้าไปด้วยเพื่อให้เหมือนของแท้มากที่สุด
แล้วไข่มุกเมโลคืออะไร และจัดอยู่ในประเภทไหน?
ไข่มุกเมโลจะใช้เรียกไข่มุกที่เกิดจากหอยโข่งหรือหอยสังข์ เพราะไข่มุกที่ได้จะมีสีส้ม ต่างจากสีไข่มุกปกติ ยิ่งตัวไข่มุกเมโลมีสีส้มมากเท่าไหร่ มูลค่าก็จะสูงตามไปด้วย เพราะหายากที่สุดในบรรดาไข่มุกทั้งหมด ซึ่งอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไข่มุกเมโลหายากมากๆ ก็คือเป็นไข่มุกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเท่านั้น แน่นอนว่ามีผู้ทดลองผลิตไข่มุกเมโล แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีไข่มุกชนิดนี้ที่ถูกมนุษย์ผลิตขึ้นได้สำเร็จ (นอกจากจะทำจากพลาสติกหรือโพลิเมอร์) ซึ่งหมายความว่าทุกเม็ดที่พบเจอเกิดขึ้นจากธรรมชาติ 100% ไร้การแทรกแซงจากมนุษย์
โดยลักษณะเด่นที่ทำให้หอยชนิดนี้ขึ้นชื่อมากๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดอัญมณีเป็นอย่างมากก็คือความเรียบเนียนมันวาว มีลวดลายคล้ายเปลวไฟโดยธรรมชาติ ทั้งยังหายากสุดๆ ทำให้ไม่มีมาตรฐานในการซื้อขาย โดยส่วนมากมูลค่าของไข่มุกเมโลมักจะซื้อขายกันเป็นกะรัต และมูลค่าต่อกะรัตมีตั้งแต่ 6,000 – 17,000 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ รูปร่าง ความมันวาวของไข่มุกเป็นหลัก นอกจากนั้นหากเม็ดใดได้รับการประเมินว่าอยู่ในขั้นคุณภาพดีเยี่ยม และยังไม่ได้นำไปประกอบกับตัวเรือนใดๆ อาจมีมูลค่าสูงถึง 75,000 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่เมื่อนำไปประกอบตัวเรือนแล้วจะมีมูลค่ามากกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว (ตีเป็นเงินไทยกลมๆ ก็เม็ดละ 6 – 7 ล้านบาทเท่านั้นเอง)
ในประเทศไทย ภูมิภาคที่มีโอกาสเจอไข่มุกชนิดนี้มากที่สุดคือภาคใต้ เพราะหอยโข่งและหอยสังข์จะพบได้มากที่สุดในทะเลใต้ และส่วนมากหอยเหล่านี้มักถูกทำเป็นอาหารเป็นประจำโดยชาวบ้านและชาวประมง นอกจากนั้นยังมีฟาร์มหอยซีกในจังหวัดภูเก็ตที่มักจะนำหอยสังข์และหอยโข่งมาทำเป็นอาหารให้หอยในฟาร์มด้วยเช่นกัน แม้จะมีโอกาสมากที่สุด แต่ก็ต้องโชคดีสุดๆ เช่นกันถึงจะเจอซักเม็ด
