บรรยากาศฝน ๆ แบบนี้ หรือแม้แต่ช่วงที่อากาศเย็น ๆ การได้ดื่มอะไรอุ่น ๆ อย่าง การดื่มชา กลิ่นหอม ๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ยังทำให้รู้สึกสดชื่น และฟิน ฮีลใจได้ดีท่ามกลางอากาศเย็น ๆ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำประเภทชาที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การมีติดบ้านไว้ชงดื่มเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้ทุกฤดูกาลเลยค่ะ

1. ชาเขียว
ชาเขียว คือ ชาที่ช่วยระบบเผาผลาญของร่างกายได้ดี เนื่องจากชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารอธโอฟิลลีนและคาเฟอีน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น เป็นชาสุดฮอตฮิตของคนรักการดื่มชา และสายสุขภาพ โดยชาเขียวมีกลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติยาวนานมากกว่า 4,000 ปี แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อจำกัดในการดื่มชาเขียวด้วยเช่นกัน เพราะในชาเขียวมีสารแทนนินผสมอยู่ด้วย อาจก่อให้เกิดการยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย และก่อให้เกิดโรคโลหิตจางได้ หากดื่มชาเขียวในปริมาณมากเกินไป

2. ชาดำ
ชาดำ ทำมาจากใบชาสายพันธุ์ Camellia Sinensis ที่มีวิธีการหมักเหมือนการทำไวน์ คือ การหมักด้วยแบคทีเรีย โดยรสชาจะขมเล็กน้อย แต่กลมกล่อม และชาดำยังเป็นชาที่มีปริมาณคาเฟอีนมากที่สุด เมื่อเทียบกับชาทุกประเภท แต่ชาดำมีฤทธิ์ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย ทำหน้าที่แทนอินซูลินในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ชะลอวัย และสารในชาดำช่วยยับยั้งเอนไซม์ Butylyncholinesterase และ Amyloid Beta ที่เป็นสาเหตุหลักของโรคอัลไซเมอร์ การดื่มชาดำเป็นประจำจึงช่วยให้ความจำดีขึ้นได้

3. ชาขาว
ชาขาวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า นอกจากนี้ ชาขาวมีวิตามินซี วิตามินอี กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไขข้อ ป้องกันความจำเสื่อม ชะลอความแก่ ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า บำรุงหลอดเลือดและหัวใจ ป้องกันโรคเบาหวาน และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิดอีกด้วย

4. ชาแดง
ชาแดง คือ ยอดอ่อนของชาอู่หลง ที่ถูกนำไปนวดให้ช้ำแล้วอบให้แห้ง เพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้รสและสีของชาอยู่ระหว่าง ชาดำกับชาเขียวกลายเป็นชาแดง ซึ่งเป็นชาที่นิยมนำไปทำชาไข่มุกนั่นเอง ชาแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดโคเลสโตรอล ลดความดันโลหิต ป้องกันมะเร็ง ลดความเครียด และช่วยระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น

5. ชาดอกคาร์โมมายล์
ชาดอกคาร์โมมมายล์ เป็นชาดอกไม้ที่มีฤทธิ์ช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย ลดความเครียด และช่วยให้สามารถนอนหลับง่ายขึ้น โดยการดื่มชาคาร์โมมายล์ ควรดื่มชาอุ่น ๆ ก่อนเข้านอน 30 – 40 นาที จะช่วยให้หลับสบาย นอกจากนี้ ชาคาร์โมมายล์ยังช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และรักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย

6.ชากุหลาบ
ชากุหลาบ เป็นชาดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คุณสมบัติของชากุหลาบช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และโดดเด่นในเรื่องของการช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดี ลดอาการปวดท้องประจำเดือน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และหลับได้ง่ายขึ้น โดยควรดื่มชากุหลาบก่อนเข้านอนประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จะช่วยให้นอนหลับสบาย ตื่นขึ้นมาแล้วเข้าห้องน้ำในตอนเช้า เป็นการขจัดของเสียออกจากร่างกาย รู้สึกสดชื่นได้ตลอดวัน

7. ชาผลไม้รวม
เชื่อว่าสายคาเฟ่หลายคนรู้จักและอาจเคยได้ลิ้มลอง ชาผลไม้รวมกันบ้างแล้ว โดยชาผลไม้รวม คือ ชาที่ทำจากผลไม้อบแห้ง แทบไม่มีคาเฟอีนเลย จึงทำให้ดื่มง่ายแม้จะเป็นคนที่ไม่ดื่มคาเฟอีน หรือคนที่แพ้คาเฟอีน เนื่องจากชาผลไม้เป็นชาที่ผสมผลไม้หลากหลายเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ประโยชน์ของผลไม้แต่ละชนิด โดยเฉพาะด้านสารกระตุ้นโปรไลโอติกส์ ช่วยให้ระบบลำไส้และระบบการเผาผลาญทำงานได้ดี ผิวพรรณดี ลดความเครียด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
ซึ่งชา 7 ประเภทที่ได้นำมาฝากนี้ ดื่มแล้วได้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพ หาซื้อได้ง่าย มีหลากหลายยี่ห้อ หลายราคาให้เลือกตามใจชอบ อากาศเย็น ๆ แบบนี้ จิบชาร้อน ๆ เติมความอบอุ่นให้ร่างกาย ป้องกันจากโรคภัยหน้าฝนที่แฝงตัวมากับอากาศชื้น ๆ กันดีกว่าค่ะ