ทันทีที่สิ้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ย่อมต้องมีการส่งไม้ผลัดต่อไปแก่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมาร ผู้ดำรงอิสริยยศ “เจ้าชายแห่งเวลส์” เพื่อสืบทอดราชบัลลังก์กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 (Charles the lll) ในบัดดล โดยยังไม่ต้องผ่านพิธีการใด ๆ ก่อน
จาก แผ่นดินควีน สู่ แผ่นดินคิงส์
เมื่อสิ้นสุดการครองราชย์ของควีนเอลิซาเบธ กษัตริย์ผู้ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานถึง 70 ปี ผู้สืบทอดบัลลังก์ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระโอรสองค์โตของควีนเอลิซาเบธ ขึ้นเสด็จครองราชย์ต่อพระมารดาในฐานะกษัตริย์ นับว่าเป็นการผลัดแผ่นดินอังกฤษจากแม่สู่ลูก จาก Queen สู่ King และ คิงส์ ชาร์ลส์ ที่ 3 ขึ้นครองราชย์ในขณะที่พระชนมายุ 73 พรรษา
พระราชประวัติ เจ้าฟ้าชายชารลส์
เจ้าฟ้าชาร์ลส์เป็นพระราชโอรสองค์โตในควีนเอลิซาเบธที่ 2 และ เจ้าชายฟิลิป พระราชสมภพวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1948 โดยมีพระขนิษฐา 1 พระองค์ คือ เจ้าหญิงแอนน์ และพระอนุชา 2 พระองค์ คือ เจ้าชายแอนดรูว์ และ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ เมื่อมีพระชันษา 10 พรรษา และเมื่อเจริญพระชันษา 21 ปี ได้ขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร รัชทายาทลำดับที่ 1
เจ้าชายชาร์ลส์เป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนฮิลล์ เฮ้าส์ กรุงลอนดอน ก่อนที่จะศึกษาต่อในโรงเรียนสำหรับเตรียมความพร้อมด้านเคมี ณ เมืองเบิร์กเชอร์ และทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม เจ้าชายชาร์ลส์มีเดทและคู่ครองหลายครั้งจนเป็นที่จับตามอง รวมไปถึงกับ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบวลส์ แต่แล้วก็ต้องเลิกราอันเนื่องมาจากกฏระเบียบราชสำนัก
เมื่อเจ้าชายชาร์ลส์มีพระชนมพรรษา 30 พรรษา ได้ทรงหมั้นกับ เลดี้ ไดอานา ซึ่งมีอายุ 19 ปี จากตระกูลสเปนเซอร์ ซึ่งเป็นหญิงที่เจ้าชายฟิลิป ผู้เป็นพระบิดาทรงสนับสนุน และได้มีพระราชพิธีอภิเษกสมรส ในวันที่ 29 กรกฏาคม ค.ศ.1981 และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงมีพระโอรสกับเจ้าหญิงไดอานา 2 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี่ แต่ชีวิตสมรสของทั้งสองพระองค์ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก มักมีปัญหาและข่าวอื้อฉาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบวลส์ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพัน
เจ้าชายชาร์ลส์ได้ทรงหย่าร้างกับเจ้าหญิงไดอาน่า ในปี ค.ศ.1996 และหลังจากนั้นใน 1 ปีต่อมา เจ้าหญิงไดอานาได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียพระชนม์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1997 โดยเกิดเหตุที่กรุงปารีส ของประเทศฝรั่งเศส สร้างความโศกเศร้าให้กับคนทั่วโลกที่ทราบข่าว และนับเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลให้ราชวงศ์อังกฤษต้องมีการปรับตัวอย่างมากจากการสูญเสียเจ้าหญิงไดอาน่าในครั้งนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อต้านเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ จากประชาชนที่รักเจ้าหญิงไดอานา
จนกระทั่งปี 2005 นับจากอุบัติเหตุที่พรากเจ้าหญิงไดอานาอันเป็นที่รักของพสกนิกรหลายคนทั่วโลกไปแล้ว 8 ปี กระแสสังคมเริ่มต่อต้านเจ้าชายชาร์ลส์น้อยลง พระองค์ก็ได้ทรงอภิเษกอีกครั้งกับ คามิลลา ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และคามิลลา ก็ได้ดำรงพระอิสริยยศ ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ นับจากนั้น
และถึงแม้ว่าในพระราชพิธีฉลองควีนเอลิซาเบธครองราชย์ครบ 70 ปี ควีนทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง หวังจะให้คามิลลาเลื่อนขึ้นเป็นราชินี เพื่อเคียงคู่กับเจ้าฟ้าชายหลังจากขึ้นครองราชย์ แต่หลังจากการเสด็จสวรรคตของควีนเอลิซาเบธในวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา และในนาทีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงขึ้นเป็น King Charles the lll หรือ กษัตริย์ พระเจ้าชายชาร์ลส์ ที่ 3 คำที่ใช้เรียก คามิลลา ยังคงเป็นคำว่า Queen consort หรือราชินีคู่สมรส
อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและจับตามองประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกมหาอำนาจหนึ่งในตองอูอย่าง อังกฤษ จะมีแนวทางในรูปแบบใด หลังจากมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินควีนที่ดำรงมาอย่างยาวนาน 70 ปี เข้าสู่ “แผ่นดินคิงส์” อย่างเต็มรูปแบบ ก็คงต้องลุ้นกันต่อไป